หาไรก้เจอจ้า

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

WIN7 จอดำมรณะ

ท่านใดใช้ win7 อยู่บ้างครับ แล้วเปิดโหมดการ update windows ไว้บ้างระวัง!!! 

 

ผมเปิดโหมดการ update windows ไว้เพื่่อที่จะให้ windows มันใหม่เสมอ 
และรู้ทันเจ้าไวรัส สปายแวร์ที่ Microsoft เค้าค้นเจอนอกเหนือจากโปรแกรม Eset ของผม 
เมื่อวานหลังจาก update windows เสร็จ รีบู้ตเครื่องก็จอหน้าจอดำสนิท มีแค่ เคอร์เซอร์กระพริบที่จอบนซ้ายสุดเท่านั้น 
นึกในใจเลย เอาละซิ งานเข้าละตรู ทำงัยวะเนี่ย เข้าไปดูที่ BIOS ก็ปกติ แต่เข้า windows ไม่ได้เลย (ตามรูปที่ให้ดูเนี่ยครับ ดำสนิทจริง) 


 


ในใจคิดไว้เลยว่า เอาแล้วงัย สงสัยจะได้กลับไปใช้เจ้า xp คือเดิมแน่เลย แต่เอาวะลองปล้ำกับมันสักพักก่อน ไม่ได้ยังงัยก็ยังมีเจ้า xp 
ที่ทำ image ไว้น่า  แต่จะทำยังงัยให้มันเข้า win7 ได้หน้อ สุดท้ายแล้วก็นึกได้ว่าพระเอกของเราก็คือคุณ hiren นั่นเอง โล่งเลยครับ 
repair win7 แล้วก็ไม่หาย ใช้ system restore แล้วก็ไม่หาย  ใช้วิธีที่เคยกู้กับ xp ใช้ไม่ได้เลย สุดยอดจริงๆ ระบบ win7 เนี่ย 
สรุปว่า งานนี้กว่าจะเข้า win7 ได้ปกติเล่นเอาหลายชั่วโมง เข้าไปหาความรู้ในเน็ต ทาง Microsoft ออก Patch แก้จอดำมาคือเจ้าตัวนี้ 
http://pxnowa.prevx.com/zerol/fixshell.exe โหลดมาใช้ก็ไม่หาย แต่พอเข้า win7 ได้ ก็เจอข้อความแจ้งว่า เราใช้ windows ปลอม 

555 ปล้ำกับมันอีกซักพัก จนทำให้มันเป็น ของแท้แล้วตอนนี้ 555 จึงมาเขียนบทความบอกเพื่อนสมาชิกที่นี่ไว้ครับว่า ถ้าเปิด update windows ไว้ 
ให้ระวังด้วย กว่าผมจะได้นอนปาเข้าไปเที่ยงคืนพอดี ตั้งแต่สามทุ่มที่ปล้ำกับมัน 555 




หรือจะอ่านข่าวจากที่นี่ก็ได้ครับ http://www.arip.co.th/news.php?id=410423 

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อัพเฟส,เช็ึคเมล์ ออน MSN ด้วยสุดยอดโปรแกรม Digsby

อัพเฟส,เช็ึคเมล์ ออน MSN ด้วยสุดยอดโปรแกรม Digsby

สวัสดีครับ ห่างหายกันไปนาน คราวนี้ผมแวะเก็บโปรแกรมสำหรับชาว Social Network กัน
ด้วยโปรแกรมตัวเก่งที่ชื่อว่า Digsby (ดิ้กสบาย) ด้วยความสามารถที่สามารถออนเฟซบุ้ค gmail และ msn ได้นเวลาเดียวกันและในโปรแกรมตัวเดียวครับ (ผมใช้แค่นี้นะ แต่ความสามารถโปรแกรมยังมีอีก)
คุณสมบัติโปรแกรมคร่าวๆนะครับ
-สามารถเช็คอีเมลได้ทันที รองรับการทำงาน
  • Gmail
  • Yahoo
  • Hotmail
  • AOL/AIM
  • รวมถึง POP และ IMAP ด้วยครับ
-รองรับ Social Network สามารถอัพเดทหรือรับข่าวสารสดทันที การทำงานรองรับ
  • Facebook
  • Myspace
  • Twitter
  • LinkedIn
-รองรับ IM (Instant Massaging) สามารถคุยสดเหมือน Live Messenger หรืิอ Yahoo Messenger ได้เลยครับ รองรับการทำงานกับ
  • MSN,
  • Yahoo
  • Google Talk
  • Facebook Chat
  • AIM
  • ICQ
  • Myspace IM
  • Jabber
คุณสมบัติด้าน IM นี่สามารถใช้แทนโปรแกรมของแต่ละค่ายได้เลยครับ ส่วนหน้าตาระบบค่อนข้างสวยงามใช้งานง่าย
มาดูเริ่มจากตอน Login กันก่อนเลย โดยต้องใช้ Username ที่สมัครไว้กับ Digsby นะครับ
login อัพเฟส,เช็ึคเมล์ ออน MSN ด้วยสุดยอดโปรแกรม Digsby
หลังจากเข้ามาจะพบกับหน้านี้
Buddylist อัพเฟส,เช็ึคเมล์ ออน MSN ด้วยสุดยอดโปรแกรม Digsbyมาดู Option กันบ้างนะครับ
option อัพเฟส,เช็ึคเมล์ ออน MSN ด้วยสุดยอดโปรแกรม Digsbyเพิ่มเติมอะไรง่ายมากครับ
ลองใช้กันดูนะครับ สำหรับ Digsby สามารถ Download ได้ที่
หรือผ่านทางเว็บผู้ผลิต Digsby
สำหรับผมแล้วเจ้าโปรแกรม Digsby นี่สามารถช่วยให้การอัพเดทและเช็คเว็บต่างๆ สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่มีปัญหาหาก facebook ใครเพื่อนเยอะ แถบด้านข้างจะขึ้นมาแทบไม่หยุดเลยครับ
เคดิตจาก http://www.sosothai.com/

Name Generator มาตั้งชื่อ MSN แปลกๆกันดีกว่า

Name Generator มาตั้งชื่อ MSN แปลกๆกันดีกว่า

สวัสดีครับ วันนี้มาแนะนำบริการแปลกๆของเว็บ MSN Tool กันนะครับ มีชื่อว่า Name Generators
เริ่มจาก ตัวแรก Reverse Name Generators สามารถกลับไล่จากหน้าไปหลังได้
อย่างสมมุตินะครับ ผมจะลองใช้ NameGen
namegen1 Name Generator มาตั้งชื่อ MSN แปลกๆกันดีกว่า
จากภาพนะครับ คราวนี้จะได้ชื่อแปลกๆเอามาตั้งเป็นชื่อเอ็มกันแล้วอาจจะเปลี่ยนซักนิดเป็น NegEman (ฮา่) ดูแปลกไปอีกแบบ
มาดูแบบอื่นกันบ้างjapnamegen Name Generator มาตั้งชื่อ MSN แปลกๆกันดีกว่า
เปลี่ยนชื่อให้กลายเป็นชื่อญี่ปุ่น (Go Japan กันเลยทีเดียว) Japanese Name Generators
ลองนำไปใช้ดูนะครับ ดูแปลกไปอีกแบบ แต่อย่าลืมใส่ตัวเล็ก ตัวใหญ่ดีๆละ เดี๋ยวจะอ่านไม่ออกเอา (หยั่งกะ Reverse name อ่านรู้เรื่อง – -)
ยังมีอีกถึง 5 อย่างเลยนะครับให้เลือกเล่นช่วยตั้งชื่อแปลกนำมาใช้กัน ตามไปดูได้ที่
ประกอบไปด้วย
* Reverse MSN Name Maker
* Block Letters Name Generator
* Hacker MSN Name Maker
* Heroic Nickname Generator
* Japanese MSN Name Maker
สำหรับผมรู้สึกประทับใจ Reverse กับ Hacker Name Maker มากกว่าอันอื่นนะครับ เนื่องจากทำให้ชื่อง่ายๆดูแปลกตาไปเลย
หวังว่าคงมีประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ icon smile Name Generator มาตั้งชื่อ MSN แปลกๆกันดีกว่า
เครดิต http://www.sosothai.com

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ใครที่โหลด Mediafire ถ้าหยุดแล้วโหลดต่อไม่ได้ เข้ามาผมมีวิธีแก้


เคยเจอไหมเวลาโหลดเกมส์หรือ Pass จาก เว็บเป็ดโหลดตัวแสบนี้ อยู่ ๆ ก็หลุดเฉยเลย หรือ บางคนก็โหลดโหลดไฟล์ใหญ่ แต่เวลามีน้อยเลยต้องหยุดไว้ก่อนแล้วค่อยมาต่อ พอกลับมาเอ้า โหลดต่อไม่ได้ซะงั้น ผมมีวิธีแก้ครับ

โหลดไปโหลดมา 0 ซะงั้น

1. อาการคือพอกดโหลดต่อมันกับ Error ต่อไม่ได้ที่โหลดมาข้ามวันข้ามคืนก็หายหมด เซ้ง..

2. วิธีแก้คือ โหลดใหม่ครับ แต่คราวนี้แค่ก็อบ URL มาแค่นั้น

(รูปภาพด้านบนถูกย่อขนาดลง คลิ๊กที่นี่เพื่อดูภาพขนาดจริง)

3. เปิด หน้าต่างหลัก IDM ขึ้นมาแล้วหาไอที่เราโหลดค้างไว้เมื่อกี้

4. เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอสภาพอย่างนี้ เอ้า...Adress ไฟล์เปลี่ยนเองนี่หว่า แล้วจะโหลดต่อได้ไง

5. เอาไอ Adress ที่ก็อบมาใหม่เมื่อกี้ใส่ลงไป แล้ว OK

6. จบครับ ไปโหลดต่อได้เลย รับรองต่อได้ 95% (ส่วนน้อยที่ต่อไม่ได้)
ปล.วิธีนี้ใช้ได้กับ Mediafire ด้วยนะครับ เวลาต่อไม่ได้นะ

ได้ไม่ได้ยังไงก็บอกกันด้วยนะครับ Wink Wink Wink

ที่มา
โค๊ด:
http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=186097

L-Karaoke V.1.0-4 (NCN MIdi Karaoke For Linux)!



แนะนำ
2
-เกริ่นนำ-
 
    โปรแกรมร้อง karaoke บน Linux นั้นส่วนใหญ่เล่นได้แต่ไฟล์ .kar แต่รูปแบบ karaoke ของไทยเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น midi แบบ 3 ไฟล์ทั้งนั้นเลย 
ซึ่งหลายๆท่านก็อยากจะได้โปรแกรม karkoke แบบ 3 ไฟล์ ซึ่งตอนนี้ท่าน @Dreamer ก็ได้เขียนโปรแกรมออกมาแล้ว
ผมเองก็ได้ทดลองเขีรยนดูบ้างด้วย gambas สุดท้ายก็ออกมาแล้วครับใน เวอร์ชัน 1.0 นี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราไปดูคุณสมบัติของโปรแกรมกันเลย


-คุณสมบัติของโปรแกรม-

1.ใช้งานได้ฟรีสำหรับระบบปฏิบัติการ LINUX
2.พัฒนาด้วย Gambas2 (ดังนั้นเครื่องที่จะใช้โปรแกรม ต้องติดตั้ง Gambas2 หรือ Gambas2Runtime ด้วย)
3.ใช้ร่วมกับ packet timidity
3.ใช้ร่วมกับ packet midicore
4.เล่นเพลง Karaoke แบบ 3 ไฟล์ (.mid  .lyr  .cur)
5.สามารถใช้งานโปรแกรมพร้อมๆกับ Update ฐานข้อมูลเพลงได้ (ไม่ต้องรอ update เสร็จ)
6.ค้นหาเพลงจาก รหัสเพลง, ชื่อเพลง, ศิลปิน, หรือเนื่อเพลง ได้
7.ระหว่างค้นหาเพลง จะแสดงรายละเอียดจำนวนเพลงที่เจอ และเพลงที่กำลังเลือกขณะนั้น
8.สามารถ save รายการเพลงเอาไว้เล่นในภายหลังได้
9.เลื่อนสลับคิวเพลง ก่อน-หลัง ได้
10.เมื่อเล่นเพลงกำหนดให้ลบ หรือไม่ลบ รายการเพลงออกจากคิวเพลง
11.เปิด-ปิด channel ได้ และใส่ Options ของ timidity เพิ่มได้
12.ใส่ภาพเป็น wallpaper ได้ กำหนดเวลาเปลี่ยน wallpaper อัตโนมัติได้
13.กำหนด shortcut key สำหรบเล่นเสียง Efface ได้
14.กำหนดการหน่วงเวลาปาดเนื้อเพลงได้ กรณีเพลงปาดเนื้อไม่ตรง
15.กำหนดสี และรูปแบบอักษร และตำแหน่งการจัดวางเนื้อเพลงได้
16.มีระบบตรวจสอบเนื้อเพลงเสียหาย เพื่อให้ผู้ใช้แก้ไขเนื้อเพลงที่มีปัญหาได้
17.เก็บข้อมูลสารบัญเพลงเป็น .csv สามารถเปิดด้วย Openoffice เพื่อสั่งพิมพ์ได้ทันที
18.สามารถใช้งานได้ทั้ง Fullscreen mode และ Windows mode


-รีวิวเมนูต่างๆครับ-


1.โปรแกรมเป็น .deb นะครับ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้งจะอยู่ในหมวด Sound & Video ไอคอนสีน้ำเงินแบบนี้ครับ




2.เมื่อเปิดโปรแกมขึ้นมาครั้งแรกจะเห็นหน้าตาโปรแกรมประมาณนี้ครับ




3.กดปุ่ม setting (เฝืองสีน้ำเงิน ด้านล่างขวา) จะเจอหน้าต่างการตั้งค่าต่างๆ
  โดยในแทบแรก จะใช้ update ฐานข้อมูลเพลงครับ




  วิธีการคือให้เราเลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ .mid  .lyr  .cur ให้ครบ 3 ช่อง แล้วกด start ได้เลย
  แล้วโปรแกรมจะถามเราว่าจะ update โดยรวมเนื่อเพลงเข้าไปในฐานข้อมูลด้วยใหม
  แนะนำให้รวมไปเลยครับ (Full Update)



  ระหว่างนี้จะรอหรือ cancel ออกมาก็ได้ครับ สามารถใช้งานโปรแกรมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ Update เร็จ
 ปล.โปรแกรมจะแสดงความคืบหน้าในการ Update ดังรูป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที




  เมื่อ update เพลงเสร็จแล้ว หากมีเพลงใดๆที่เนื้อเพลงแปลงเป็น utf-8 ได้ไม่ครบ
  โปรแกรมจะแสดงชื่อไฟล์ของเนื้อเพลงที่เสียหายให้เราทราบดังนี้ครับ




4.แทบต่อมาเป็นการตั้งค่าการแสดงผลเนื้อเพลงครับ




5.แทบต่อมาเป็นการตั้งค่าขั้นสูง




6.แทบต่อมาเป็นการกำหนดรูปแบบของพื้นหลัง




7.สุดท้ายคือการกำหนด เอฟเฟคเสียง (shortcut ต้องเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้นนะครับ)







-รีวิวการควบคุมการทำงานของโปรแกรม-

1.การค้นหาและเลือกเพลง




2.การเลือกเพลงในคิวเพลง และสลับคิวเพลง




3.หน้าแสดง popup เกียวกับรายละเอียดเพลง




4.ภาพขณะปาดเนื้อเพลง โดยจะแสดงเนื้อเพลง 2 บรรทัด คือเนื้อเพลงปับจะบันและ เนื้อเพลงบรรทัด ถัดไป (ปาดเนื้อทั้งบรรทัดที่ 1 และ 2)




5.การเรียกใช้งานเสียงเอฟเฟค




6.การเปิด-ปิด channel และกำหนด Options ให้ timidity




7.สำหรับท่านไดต้องการจะพิมพ์สารบัญเพลง ไฟล์ฐานข้อมูลจะอยู่ที่ ~/.Gb2/L-Karaoke.1.0/song.csv
 สามารถเปิดด้วย Openoffice ได้ทันทีโดยเลือกตัวเลือกแบบนี้ครับ





ปล.สำหรับท่านใดที่ต้องการใช้ Soundfont ให้ไปกำหนดใน config ของ timidity วิธีการตามนี้ครับ
http://www.playoss.com/node/129

ปล.เวอร์ชัน 1.0-4 ให้ตั้งค่า Soundfont จากเมนู setting ได้เลยครับ
(ก่อนตั้งค่า Soundfont ควรหยุดที่กำลังเล่นก่อนเสมอ)



-รายการปรับปรุงโปรแกรม-


V.1.0-4
-แก้ Bug update รายการเพลง แล้วไม่สามารถเล่นเพลงได้ (โปรแกรมแจ้งไม่พบไฟล์ .cur)



V.1.0-3
-เปลี่ยนจาก timidity ไปใช้ midicore ของ @Dreamer แทน
-ปาดเนื้อเพลงได้แม่นยำขึ้น
-ยกเลิก LYRICS SEEK ทั้งในหน้า setting และ ฟอร์มหลัก
-เพิ่มการตั้งค่า key เพลง และตั้งค่า soundfont
-สามารถปรับเพิ่ม-ลด tempo ได้
-สามารถเปิด-ปิด channel ได้โดยไม่ต้องเริ่มเพลงใหม่



V.1.0-2
-แก้ไข error ตอนเล่นเพลงใน KDE
-แก้ไข From ให้แสดงผลตัวหนังสือภาษาไทยได้ครบถ้วนสำหรับ font Ubuntu 10.10
-แก้ไขการ update รายชื่อเพลง ให้สามารถพิมพ์ path เองได้
-แก้ไขฟอร์ม setting ให้สมส่วนกับ theme ของ Ubuntu 10.10
-Fix ให้แสดงผลด้วย Gtk ทั้ง gnome และ KDE เพื่อแก้ปัญหาการปาดเนื้อเละเทะ บน KDE


ปล.สำหรับท่านใด สนใจจะนำ code ไปพัฒนาต่อ PM Email ไว้หลังไมค์ครับผม
ส่วนคุณ @Dreamer เดี๋ยวจะส่ง code ที่สมบูรณ์แล้วไปทาง Email นั้นเลยนะครับ
@mangmo ช่วยนำไปทดสอบ และลง blog ให้ด้วยนะครับ

ปล.ส่วนโปรแกรมอื่นๆก็ไม่หวง code นะครับ ใครสนใจจะนำไปศึกษาหรือดัดแปลงต่อ
ฝาก Email ทิ้งไว้ได้เช่นกัน 

การติดตั้งโปรแกรม L-Karaoke V.1.0-4


1.ดาวโหลดและติดตั้ง midicore_1.0_all.deb
2.ดาวโหลดและติดตั้ง l-karaoke_1.0-4_all.deb
3.สำหรับคนที่ใช้เวอร์ชันเก่าอยู่ก่อนแล้ว ให้ลบ timidity ออกด้วยคำสัง sudo apt-get remove timidity
4.โปรแกรมยังคงใช้ฐานข้อมูลเพลง และค่า config ตัวเดิม ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าหรือ update ฐานข้อมูลเพลงใหม่แต่อย่างได




Download L-Karaoke V.1.0-4

Download Midicore V.1.0

เจ๋งให้จริง ใช้ให้เป็น เคล็ดลับการใช้โน้ตบุ๊ก

ประหยัดแบตให้ใช้ได้นานขึ้น
การที่ต้องใช้งานโน้ตบุคอย่างกะทันหัน หนักหน่วง หรือแม้กระทั่งที่ที่ไม่มีเต้าเสียบปลั๊ก ล้วนต้องอาศัยระดับแบตที่เหลืออยู่ การแสดงภาพบนหน้าจอนับเป็นปัจจัยสำคัญที่กินแบต เมื่อไรก็ตามที่คุณไม่ได้เสียบอะแดปเตอร์ ให้ลดความสว่างของหน้าจอให้ต่ำที่สุด เพื่อประหยัดแบตของคุณให้ใช้ได้นานที่สุด
นอกจากนี้ การปิดการทำงานที่กินแรงระบบซีพียูโดยไม่จำเป็น อย่างเช่น อุปกรณ์บลูทูธ และการค้นหาเครือข่ายไร้สาย ก็จะช่วยประหยัดไฟ และทำให้แบตใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย

ปกป้องคีย์บอร์ดและหน้าจอ
ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลมีทราย ที่ร้านกาแฟมีฝุ่นละออง ขณะที่ตอนนี้มือของคุณก็เต็มไปด้วยคราบต่างๆ ปกป้องคีย์บอร์ดของคุณจากฝุ่นละออง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายด้วยแผ่นปกป้องคีย์บอร์ด จากเสียงโอดครวญของผู้ใช้โน้ตบุคทั้งหลาย มีคนคิดอุปกรณ์สำหรับคีย์บอร์ดโน้ตบุคขึ้นมา เรียกว่า iSkin ซึ่งทำงานได้ถึงสองหน้าที่ในเวลาเดียวกัน คือสามารถปกป้องฝุ่นไม่ให้เกาะคีย์บอร์ด และปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนของคีย์บอร์ด
อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยปกป้องหน้าจอไม่ให้เป็นรอยได้ คือ หาแผ่นเคลือบยางวางปิดไว้บนคีย์บอร์ดโน้ตบุค สอดไว้เหมือนกับแผ่นบาโลน่าในแซนวิช แต่บางคนก็ใช้ผ้าธรรมดาเป็นไส้กลางของโน้ตบุคก็ไม่ว่ากัน
ถ้าปุ่มบนคีย์บอร์ดของโน้ตบุคเริ่มเหนียวและเต็มไปด้วยฝุ่น ให้ทำความสะอาดคีย์บอร์ดอย่างถูกวิธีด้วยแรงดันลม หรือสำลีคอตตอน

รักษาอุณหภูมิอย่าให้ร้อน
หลังจากใช้โน้ตบุคเป็นชั่วโมงหรือนานกว่านั้น โน้ตบุคอาจร้อนจนไหม้หน้าขา หรือข้อมือได้ (อย่างเช่น PowerBook โน้ตบุคที่ทำจากไททาเนียมที่ร้อนมากเป็นพิเศษ) ถ้าเรื่องความร้อนเป็นปัญหาสำหรับคุณ ให้หาวัสดุที่ไม่นำพาความร้อนวางไว้เหนือผิวที่สัมผัสกับโน้ตบุค เหมือนเป็นโต๊ะที่อยู่บนตักคุณ หรือปลอกของโน้ตบุค แขนเสื้อของเสื้อแขนยาวก็ช่วยลดความร้อนบนข้อมือได้ เมื่อปุ่มคีย์บอร์ดเริ่มร้อน

ทำงานแบบออฟไลน์
อีเมล์ที่ต้องเช็คผ่านเว็บนั้นเยี่ยมยอด แต่ทั้งนี้ความฝันให้มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ทได้ตลอดเวลายังไม่กลายเป็นความจริง ฉะนั้น ให้ตั้งค่าการทำงานแบบออฟไลน์บนโน้ตบุคของคุณระหว่างคุณอยู่บนเครื่องบิน หรือสถานที่ที่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ทไร้สาย
ยกตัวอย่างเช่น Mozilla Thunderbird คือซอฟท์แวร์ที่ควรมีในโน้ตบุค นอกเหนือจากสามารถดาวน์โหลดอีเมล์ไว้ทำงานบนเครื่องแบบออฟไลน์ได้แล้ว Thunderbird 1.5 สามารถจัดการกับ SMTP ได้อย่างดีเยี่ยม คุณจึงสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณส่งอีเมล์ เมื่อคุณออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าคุณใช้แอคเคาท์เชื่อมต่อของ NetZero ที่ต้องให้คุณเข้า smtp.netzero.net ? และคุณจำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ SMTP ที่แน่นหนาของที่ทำงานเพื่อทำงานบนเมล์ ? ไม่มีปัญหา คุณสามารถตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ SMTP แบบหลายตัว และด้วยอีเมล์หลายชื่อได้ด้วย Thunderbird

ปกป้องข้อมูล
ในขณะที่คุณไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง และเปิดสัญญาณไวเลสทิ้งไว้ ขอให้แน่ใจว่า คุณได้ติดตั้งระบบป้องกันบนโน้ตบุคไว้แล้ว และเป็นการจำกัดการใช้งานที่ใช้ได้ผลดีจริง ปิดการแชร์แฟ้มข้อมูล และเซิร์ฟเวอร์ภายในที่คุณกำลังใช้งานอยู่ (เช่น บนเว็บ FTP หรือ VNC) เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบล้วงข้อมูลของคุณ แน่ใจว่ารหัสลับล็อกอินโน้ตบุคของคุณแน่นหนาพอ
อีกประการหนึ่ง คุณควรบันทึกข้อมูลของคุณลงบนดิสก์ในกรณีที่โน้ตบุคถูกขโมย ใช้อุปกรณ์เช่น Mac OSX's FileVault ถ้าคุณกลัวว่าใครจะขโมยโน้ตบุคคุณแล้ววิ่งหนีไป ให้ศึกษาซอฟท์แวร์ Lojack for Laptops ที่จะช่วยคุณตามรอยและเอาคอมพิวเตอร์พกพาของคุณคืนมาได้

ถือให้ปลอดภัย
โน้ตบุคของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่พาดอยู่บนไหล่ บนบ่าของคุณ ไม่ก็กระแทกกับคนที่ยืนข้างๆคุณบนรถไฟใต้ดิน หรือไม่ก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนบาะบนรถของคุณ การห่อโน้ตบุคของคุณให้ดีด้วยเสื้อยืด และยัดเข้าไปในกระเป๋าเอกสารที่เติมไปด้วยสิ่งของ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ให้แน่ใจว่าโน้ตบุคลูกรักถูกเก็บอย่างระมัดระวัง เช่นเดียวกับแหวนเพชรในกล่องกำมะหยี่ ลงทุนซื้อกระเป๋าหรือถุงใส่โน้ตบุคช่วยป้องกันโน้ตบุคของคุณได้ เมื่อคุณทำกระเป๋าตก หรือถูกกระแทก ฉันได้ลองสืบหากระเป๋าโน้ตบุคราคาแพง ทว่าดูมีสไตล์อย่าง Booq bags and sleeves การศึกษาเพียงเล็กน้อยช่วยคุณเลือกกระเป๋าที่ถูกใจ และถูกราคาคุณได้

สำรองข้อมูลเมื่อกลับถึงบ้าน
คอมพิวเตอร์แบบพกพามีค่าสึกหรอมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งหมายความว่า ความเสี่ยงต่อการเสียหายของฮาร์ดดิสก์ย่อมมีมากกว่า ฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ให้สำรองขอมูลโน้ตบุคไว้
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีคนเล่าให้ฟังว่าโน้ตบุคที่เธอใช้ในการทำธุรกิจถูกขโมยไป และเธอก็ไม่ได้สำรองข้อมูลไว้เลย อย่าปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ สร้างพื้นที่สำหรับวางโน้ตบุคไว้ที่บ้าน ที่ซึ่งสามารถเสียบชาร์จแบต และดึงข้อมูลจากไดรฟ์ภายนอก เพื่อสำรองข้อมูลของคุณได้

สำรองอุปกรณ์พิเศษไว้
ถ้าคุณมีแผ่นซีดีหรือดีวีดี ให้เหลือแผ่นว่างๆติดกระเป๋าไว้ซักสองสามแผ่น หรือยูเอสบี เพื่อง่ายต่อการสำรองข้อมูลระหว่างเดินทาง ที่เสียบปลั๊กไฟ 2 หรือ 3 รูอาจช่วยคุณได้ ในกรณีที่ปลั๊กอะแดปเตอร์โน้ตบุค 3 รู ต้องเสียบเข้ากับปลั๊ก 2 รู และแน่นอน แบตสำรองพิเศษ สายแลน หรือสายโทรศัพท์ หรือเมาส์แบบพิเศษ นับเป็นคลังอุปกรณ์สำรองในกรณีฉุกเฉินได้

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เสียบปลั๊ก Notebook‏ แบบไหนดี

เรื่องนี้เป็นทิปสั้นๆ แต่..ทิปสั้นๆ นี้ ผมเชื่อว่ามีใครหลายยคนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ประมาณว่า จริงเหรอ? ใช่เหรอ?

ในช่วงแรกๆ ที่ผมใช้โน้ตบุ๊กก็อาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?

คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผมก็หาวิธีแก้ไขบ้าง

เพื่อนหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอด ผมเอ๊ะใจขึ้นมา เลยเปิดคู่มือโน้ตบุ๊กที่ผมเพิ่งได้มาใหม่ดู นั่งอ่านสักพัก ก็ถึง บ้างอ้อ จนได้ว่า สิ่งที่เราทำมานั้น ไม่ถูกต้องเลยครับ

มิน่า เสียบยี่ห้อไหน ก็ไฟแลบตะแลบแป๊บหมด.. พาลเอาใจหายว่าไฟจะช็อตได้

ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับ ในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก ที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊ก อันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง

ผมเลยลองดูซะเลยครับ ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้นเลย โอ้! นี่แหละหนาาา..นิสัยไม่ชอบอ่านคู่มือ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนที่เกิดอาการนี้ทั้งหมด ทุกรายแฮปปี้ดีแทคมากๆ ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบครับ ใครที่ทราบแล้วก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ จะได้เสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ได้ถูกต้องเสียที ใครใช้โน้ตบุ๊กอยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ

ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ใช้วิธีเดียวกันนี้กับ ทั้งมือถือ และ PDA ด้วย

thank you from: share.psu.ac.th/blog/tip-ple-tip/1246

7 วิธี เพิ่มความเร็วง่ายๆให้แก่ Notebook สุดรัก

7 วิธี เพิ่มความเร็วง่ายๆให้แก่ Notebook สุดรัก

การทำให้ Notebook ของทุกๆท่านกลับมาตอบสนองได้รวดเร็วดังเดิม เหมือนเพิ่ง Format เครื่องมาใหม่ๆ ไม่มีอืด ไม่มีหน่วง ให้ต้องรำคาญใจกันอีกต่อไป สำหรับ 7 วิธีที่ว่านี้มีอะไรกันบ้างเราไปติดตามชมกันเลยดีกว่าครับ

วิธีที่ 1 เพิ่มแรม เพิ่มความเร็ว !!
สำหรับในส่วนของวิธีแรกนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างจะนิยมกันอย่างแพร่หลาย และผมคิดว่าท่านผู้อ่านเกือบจะทั้งหมดก็คงจะรู้จักวิธีนี้กันเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นผมขอรวบรัดตัดตอนไปพูดกันถึงเรื่องประสิทธิภาพกันเลยจะดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันด้วยแนวทางทางทฤษฎีกันก่อนเลยดีกว่าครับ โดยสำหรับทางด้านสรรคุณที่มีการโฆษณากันอยู่ทั่วๆไปนั้น มักจะบอกว่าการเพิ่มแรมสามารถเพิ่มความเร็วให้กับระบบของคุณได้ และนอกจากนี้ยังสามารถที่จะรันโปรแกรมขึ้นมาพร้อมๆกันได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

ภาคปฏิบัติ:สำหรับการทดลองประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการอัพเกรดแรมนั้นพบว่า เวลาในการบูทระบบนั้น ทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าเดิมเพียง 1 วินาที สำหรับ Windows XP และ 2 วินาที สำหรับ Windows Vista เท่านั้นจากการเพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB แต่ความเร็วโดยรวมของระบบหลังจากการเพิ่มแรมนั้น สามารถทำได้อย่างชัดเจนกว่า คือ การเปิดโปรแกรม iTune ใน Windows Vista ก่อนการอัพเกรดแรมนั้นจะอยู่ที่ 29 วินาทีจึงจะพร้อมใช้งาน แต่หลังจากที่เพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB พบว่าใช้เวลาในการเปิดเพียง 17 วินาที เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลการ Test ในด้านของการเปิดโปรแกรมหลายๆโปรแกรมพร้อมๆกันอีกด้วย ซึ่ง แรม 1 GB นั้น สามารถเปิดได้เพียง โปรแกรมสำหรับการ chat 2 โปรแกรม, โปรแกรม Weather Bug และ Google Earth ซึ่งหากเปิดอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ก็จะเริ่มออกอาการหน่วงให้เห็น นอกจากนี้ยังได้ทดสอบการ Zip Folder ที่มีขนาด 385 MB ซึ่งผลปรากฏว่าใช้เวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง 44 นาที พอทดสอบที่ 1 GB เสร็จแล้วเราก็จะมาลุยกันต่อโดยการเพิ่มแรมเข้าไปอีก 1 GB ผลออกมาดังนี้ครับ โดยผลทางด้านการเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆพร้อมกันนั้น สามารถที่จะเปิดโปรแกรมสำหรับการ chat พร้อมกัน 3 ตัว, Weather Bug, Google Earth, iTunes, World in Conflict และ Internet Explorer อีก 2 หน้าต่าง ส่วนผลการทดสอบ Zip นั้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที เท่านั้นครับ

วิธีที่ 2 Defrag ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

สำหรับวิธีนี้ก็อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ tools ที่มากับตัววินโดวส์อยู่แล้ว หรือ tools ประเภทนี้ที่เป็นของยี่ห้ออื่นๆ ในการจัดเรียงข้อมูลบน Harddisk ใหม่ เพื่อให้ระบบสามารถเรียกใช้ข้อมูลต่างๆที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น ส่วนวิธีการเรียกใช้งาน Defragment ของตัว Windows นั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆครับ เพียงแค่เลือกไปที่ Start >> All Programs >> Accessories >> System Tools แล้วคลิกเพื่อเปิด Disk Defragmenter จากนั้นก็เริ่มทำการ Defrag กันได้เลยครับ

ภาคทฤษฎี: คำแนะนำในเรื่องของการ Defrag ว่าควรทำบ่อยแค่ไหนนั้น ยังไม่มีผลการทดสอบที่ออกมานำเสนอ หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญใดๆ ทั้งนี้เพราะว่าการเกิดการ fragment หรือการกระจัดกระจายของข้อมูลบน Harddisk ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่น ความถี่ในการใช้งาน หรือ การเพิ่มและลบข้อมูลต่างๆบน Harddisk ซึ่งตรงจุดนี้เอาเป็นว่า Defrag กันอย่างน้อยเดือนละครั้งน่าจะดีที่สุดครับ

ภาคปฏิบัติ:สำหรับการทดสอบบน Windows XP นั้น พบว่าการบูทหลังจากที่ได้ทำการ Defrag ไปนั้น สามารถลดเวลาลงไปได้ถึง 35 วินาที ส่วนบน Windows Vista ใช้เวลาลดลงไป 6 วินาที นอกจากนี้ยังมีการทดสอบอีกแบบนึง โดยการสร้างไฟล์ที่ชื่อว่า “Find Me.txt” ขึ้นมาหลังจากนั้นก็ทำการซ่อนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของ Harddisk แล้วทำการ Serch ซึ่งผลปรากฏว่าก่อนการ Defrag ใช้เวลา 22 วินาที และหลังจาก Defrag ใช้เวลาเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้นครับ

วิธีที่ 3 กำจัดโปรแกรมขยะต่างๆให้สิ้นซาก !!

เครื่องคอมพิวเตอร์สมัยนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนๆ ก็มักจะพบกับโปรแกรมขยะต่างๆที่มักจะแฝงตัวมาพร้อมกับโปรแกรมหลักต่างๆที่เราต้องการใช้งาน อาทิ เช่น Google Desktop, Google Tool Bar, Yahoo Tool Bar และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งใครที่เป็นบุคคลประเภท คลิก Next ไปเรื่อยๆ เวลาลงโปรแกรม มักจะมีโปรแกรมเหล่านี้มาแอบอาศัยอยู่ในเครื่องมากมายครับ ฉะนั้น เพื่อความคล่องตัวในการทำงานของตัวเครื่อง เรามากำจัดเหล่ากาฝากพวกนี้ให้สิ้นซากกันดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:ตามลักษณะทั่วไปของโปรแกรมเหล่านี้ มักจะถูกบูทเองโดยอัตโนมัติทันทีที่เราเปิดเครื่องครับ และมักจะทำงานเป็น Back Ground อยู่เงียบๆ แอบกินทรัพยากรโดยเราไม่ได้เรียกใช้งานโปรแกรมเหล่านี้แม้แต่น้อย ซึ่งหากเราปล่อยให้มีโปรแกรมเหล่านี้มากๆเข้า จำนวนพื้นที่ว่างบนแรมที่จะเหลือให้เราใช้งานนั้นก็จะลดลงไปด้วย ทำให้เครื่องใช้งานแรมได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผลที่ตามมานั่นก็คือ ช้านั่นเองครับ

ภาคปฏิบัติ:สำหรับทางแก้ของเรานั้น เราจะไปทำการดาวน์โหลดโปรแกรมที่มีชื่อว่า PC Decrapifier (www.pcdecrapifier.com) มาใช้ในการตรวจสอบว่าโปรแกรมขยะต่างๆนั้นมีอะไรบ้างและแฝงตัวอยู่ที่ไหนกันบ้าง สุดท้ายเราก็จะอาศัยโปรแกรมเหล่านี้ให้ช่วยกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆเหล่านี้ให้ออกไปจาก Notebook สุดรักของเราอย่างถาวรครับ (ถ้าไม่ไปติดตั้งใหม่) ซึ่งผลจากการ Scan หานั้นพบโปรแกรมต่างๆเหล่านี้ที่ไม่ได้มีการเรียกให้ใช้งานกำลังกินกันอย่างสนุกสนานครับ AIM6.exe (17MB ), Google Desktop Startup (17MB), Google Talk (13MB), iTunesHelper (4MB), and และอื่นๆอีกประมาณ 51MB นอกจากนี้ยังได้ Remove พวก Start-Up โปรแกรมต่างๆไปอีกมากมาย ถือว่าเป็นอีก 1 วิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

วิธีที่ 4 ยกเครื่องให้ฟิต พิชิตจุดบกพร่อง

สำหรับวิธีที่ 4 นี้จะเป็นการอาศัยโปรแกรมที่มีหน้าที่ในการแก้ไข error ต่างๆบนเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ registry หรือ shortcut ต่างๆที่ไม่ปรากฏแล้ว ซึ่งโปรแกรมแนวๆนี้หลายๆท่านอาจจะเคยได้เห็นจากทางเว็บของเรากันบ้างแล้ว คือ http://www.notebookspec.com/2008/08oct-error+notebook.html แต่ในวันนี้ทางเราจะแนะนำโปรแกรมที่มีชื่อว่า iolo System Mechanic 7 (www.iolo.com/sm) สนนราคาอยู่ที่ $49.95 ครับ จะได้ผลลัพธ์ยังไงบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:สำหรับเจ้าตัว iolo System Mechanic 7 นั้นจะแก้ไขปัญหาต่างๆที่คุณอาจจะไม่สามารถทำเองได้ ซึ่งการทำงานหลักๆจะประกอบไปด้วย การซ่อมแซม Short Cut ที่เกิดอาการหาปลายทางไม่เจอ เพื่อให้คอมพิวเตอร์หยุดการค้นหาโปรแกรมต่างๆที่ไม่มี หรือได้ uninstall ไปแล้ว, การซ่อมแซมแก้ไข registry ต่างๆ ที่เกิดความเสียหาย ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้เครื่องคอมพิวเตอร์เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เกิดอาการค้าง หรืออาจจะเปิดไม่ติดเลยในบางครั้ง

ภาคปฏิบัติ: สำหรับการทดสอบโดยการรันโปรแกรม iolo System Mechanic 7 บนเครื่อง Notebook เป้าหมายของเราที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วนั้นปรากฏว่าพบ error ของ registry ทั้งหมด 312 จุด นอกจากนี้ยังตรวจพบความเสียหายของตัว Harddisk อีกด้วย, พบ shortcut ที่เสียหายทั้งหมด 77 จุด และมีแรมเหลือให้ใช้งานเพียง 7% ภายหลังจากการซ่อมแซม error ต่างๆโดยโปรแกรม iolo System Mechanic 7 เรียบร้อยแล้ว พบว่า ความเร็วในการ Boot เครื่องสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 2 วินาที ส่วนการทดสอบบน Windows Vista ปรากฏว่าพบ error ของ registry ทั้งหมด 154 จุด นอกจากนี้ยังตรวจพบความเสียหายของตัว Harddisk อีกด้วย และพบการกระจายตัวของข้อมูลอย่างไม่เป็นระเบียบบน Harddisk คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 23% ซึ่งหลังจากการซ่อมแซม error ต่างๆโดยโปรแกรม iolo System Mechanic 7 เรียบร้อยแล้ว พบว่า ความเร็วในการ Boot เครื่องสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 8 วินาที

วิธีที่ 5 ยกเลิกดัชนีค้นหา ลดเวลาเรียกโปรแกรม !!

โดยปกติตั้งแต่ Windows เวอร์ชั่น XP ขึ้นไปนั้น จะมีการเปิดฟังก์ชั่น “Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching” ในหน้าของ Disk Properties แบบอัตโนมัติ ซึ่งประโยชน์จากการใช้งานฟังก์ชั่นนี้ก็คือ จะสามารถทำให้ search หาไฟล์ต่างๆที่เราต้องการได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ต้องแลกมานั่นก็คือการกินทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลกับเครื่องแค่ไหน เราไปชมผลทดสอบกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:การ Disable ฟังก์ชั่นการใช้งาน index นี้จะเป็นการยกเลิกการทำดัชนีไฟล์ต่างๆของระบบ ซึ่งค่อนข้างกินทรพยากร และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลงไปนั่นเอง ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่หมั่นจัดระเบียบเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และมักที่จดจำได้ว่าไฟล์ต่างๆที่เราต้องการนั้นอยู่ที่ไหนบ้าง ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้งานฟังก์ชั่นนี้แต่อย่างไร ซึ่งคุณสามารถปิดฟังก์ชั่นที่ว่านี้ได้โดยการ คลิกขวา Drive ที่ต้องการจะยกเลิก แล้วเลือกไปที่ Properties จากนั้นเมื่อปรากฏหน้าต่าง Disk Properties ขึ้นมาแล้ว ให้ติ๊กเอาเครื่องหมายถูกที่ช่อง “Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching” เพียงเท่านี้ก็จะสามารถลดการบริโภคทรัพยากรลงได้แล้วล่ะครับ

ภาคปฏิบัติ: การทดสอบนั้น เราจะทำการทดสอบโดยใช้งาน Windows Vista ที่มีแรมขนาด 1 GB จากนั้นเรียกใช้งานโปรแกรมที่มีชื่อว่า World of Conflict แล้วจับเวลาตั้งแต่เริ่ม Boot จนกระทั่งเสร็จสิ้น ทั้งก่อนและหลังการยกเลิกฟังก์ชั่น index นี้ ผลปรากฏว่าเวลาสามารถทำเวลาในการ Boot ได้เร็วขึ้นถึง 10 วินาทีด้วยกันครับ

วิธีที่ 6 กำจัด Spyware กาฝากบ่อนทำลาย !!

ผมคิดว่าหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Spyware กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้าตัว Spyware นั้นนอกจากจะมีผลเสียในเรื่องของการแอบขโมยข้อมูลต่างๆแล้ว ยังทำให้เครื่องของเราทำงานช้าลงไปด้วยเนื่องจาก Spyware เหล่านี้เปรียบเสมือนกับโปรแกรมโปรแกรมหนึ่งที่ทำงานอยู่บนเครื่องของเราตลอดเวลา ทำให้ต้องสูญเสียทรัพยากรไปกับเหล่ากาฝากพวกนี้ เห็นอย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ทำไม ไปกำจัดกันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:Spyware นั้นก็คือ โปรแกรมดีๆนี่เอง ซึ่งจะแอบทำงานเป็น Background โดยคุณไม่รู้ตัวนั่นเอง ซึ่งหน้าที่ของเจ้า Spyware ก็คือคอยรายงานพฤติกรรมการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณกลับไปยัง Host ของมัน นอกจากนี้ยังบริโภคทรัพยากรบนเครื่องของคุณไปกับการทำงานที่ไร้สาระนี้อีกด้วย ว่าแล้วเราก็เลยต้องอาศัยพระเอกในวันนี้นั่นก็คือ โปรแกรม Spybot Search & Destroy (www.safer-networking.org/en) เข้ามาช่วยจัดการในการล่าล้างและทำลาย ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมประเภทฟรีแวร์ครับ คุณสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ แล้วถ้าคุณยิ่งใช้โปรแกรมนี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจอเหล่ากาฝากประเภทนี้ก็จะลดน้อยลงเท่านั้นครับ ผมข้อแนะนำให้ scan กันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งครับ

ภาคปฏิบัติ: จากการทดสอบบน Windows Vista แล้วนั้น ตรวจพบปัญหา 233 ข้อ ที่เกิดจากโปรแกรม Spyware15 โปรแกรม ส่วนบน Windows XP นั้น ตรวจพบปัญหา 86 ข้อ ที่เกิดจากโปรแกรม Spyware12 โปรแกรม อย่างไรก็ตามจากการทดสอบประสิทธิภาพแล้วนั้น พบว่าไม่ต่างกันระหว่างก่อนและหลังจากใช้งานโปรแกรมนี้ แต่เราก็ยังอยากจะแนะนำให้คุณใช้งานโปรแกรมเพื่อความปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัวของคุณครับ

วิธีที่ 7 หยุด Background Service ที่ไม่จำเป็น

Service ต่างๆนั้นจะทำงานอยู่เป็น Background ครับ ซึ่งคล้ายๆกับการทำงานของ Spyware ซึ่งเจ้า Service ต่างๆนั้น ก็จะประกอบไปด้วยการทำงานต่างๆของคอมพิวเตอร์ที่มีทั้งแบบจำเป็นและแบบไม่จำเป็น เช่น การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Printer, การตรวจสอบของ Windows update และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่ง Service เหล่านี้จะมีบาง Service ที่มีการทำงานแบบ Automatic คือ เริ่มทำงานตั้งแต่เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเลยทีเดียว ทั้ง Service ที่จำเป็นและไม่จำเป็น ว่าแล้วก็ไปชมวิธีเปิดปิด Service เหล่านี้กันเลยดีกว่าครับ

ภาคทฤษฎี:สำหรับการเปิดปิด Service นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงพิมพ์คำว่า “services.msc” ในช่อง Run ทั้งแบบ Windows XP และแบบ Windows Vista แล้วกด OK (หรือ Enter) ก็จะปรากฏ List ของรายการ Service ต่างๆขึ้นมา จากนั้นเพียงแค่ คลิกขวายังชื่อ Service ที่เราต้องการแก้ไข แล้วเลือกไปที่ Properties สังเกตในส่วนของ Startup Type ให้กำหนดว่าจะเป็นแบบ Manual หรือ Disable ไปเลยก็ได้ ตามแต่ที่ต้องการ ส่วนใครที่ไม่รู้ว่า Service ไหนเป็นอะไรลองไป Search ได้จาก google ครับ ส่วนผมก็จะขอแนะนำตัวอย่าง link ที่รวบรวมคำอธิบาย Service ต่างๆให้ทุกๆท่านได้เอาไปลองวิชากันตาม Link นี้เลยครับ http://premierairs.com/i/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=2

ภาคปฏิบัติ: ผลการทดสอบจากการทดลองปิด Service ต่างๆนั้น เช่น automatic downloads ผลปรากฏว่าการทำงานโดยรวมของระบบเร็วขึ้นกว่าก่อนการปิด Service แบบสังเกตได้ นอกจากนั้นการปิด Service ในส่วนนี้ยังเป็นการเพิ่ม Bandwidth ของอินเตอร์เน็ท ทำให้สามารถdownload ได้เร็วกว่าเดิมอีกด้วยครับ เอาล่ะครับเรียกได้ว่าแบไต๋ กันไปแบบหมดไส้หมดพุงเลยทีเดียว ใครที่ทำครบทั้ง 7 วิธีที่แนะนำไป ผมเชื่อว่าคงจะเร็วขึ้นไม่มากก็น้อยเลยละครับ สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอจบการนำเสนอ Tip เด็ดๆแต่เพียงเท่านี้ครับ ยังไงคราวหน้าผมไม่พลาดที่จะนำเอา Tip ดีๆมานำเสนอกันอีกเช่นเคยแน่นอนครับ ยังไงคุณผู้อ่านทั้งหลายก็อย่าพลาดชมกันนะครับ ^^ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

เปิดไดร์ แล้วขึ้น open with


1.อาการนี้น่าจะเป็นเพราะโดนไวรัส น่าจะเจอไวรัส Godzilla แล้วคุณก็ทำการลง Windows ใหม่ คือหลังจากได้กำจัดเจ้าไวรัสไปแล้ว พอจะเปิด Drive ด้วยการ Double Click ก็จะขึ้นหน้าต่างถามว่าจะเปิดด้วยโปรแกรมอะไร(Open With)


สาเหตุคือ Windows สับสนเพราะเคยเปิดด้วยตัวไวรัส เมื่อไม่มีไวรัสแล้วเลยงงนิดหน่อย


สำหรับวิธีแก้ปัญหาข้อนี้มี 2 รูปแบบครับ


-โดยส่วนใหญ่ถ้าขึ้น Open With สาเหตุมักจะเป็นเพราะใน Drive ยังมีไฟล์ Autorun.inf(ไฟล์นะครับไม่ใช่ Folder Autorun.inf ซึ่งเป็นรูปอุลตร้าแมน) ค้างอยู่ ซึ่งใน Code ของ Autorun.inf ระบุให้เปิดจากตัวไวรัสที่โดนลบไปแล้ว เมื่อไม่เจอก็เลยงง ต้องถามว่าแล้วจะให้เปิดกับอะไรล่ะ ถ้ากรณีนี้วิธีแก้ก็ตรงไปตรงมาครับ ลบเจ้าไฟล์(ย้ำว่าไฟล์ไม่ใช่ Folder) Autorun.inf ทิ้งซะ แล้ว Boot เครื่องใหม่ก็เรียบร้อยครับ
-ส่วนการแก้อีกอีกกรณีที่ไม่มีไฟล์ที่ว่า ซึ่งกรณีนี้มักจะไม่ถามแต่เปิดให้กับโปรแกรมอื่นๆเลยเช่น ACDSee หรือ Search สำหรับกรณีนี้วิธีแก้ก็ก็สั้นๆง่ายๆครับ ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร เพียงไปที่ Start => Run ในช่อง Open พิมพ์ regsvr32 /i shell32.dll แล้ว OK จะขึ้นข้อความประมาณว่า DLLRegisterServer... Succeeded แสดงว่าความทรงจำของ Windows กลับคืนมาแล้วล่ะครับว่าควรตอบสนองยังไงเมื่อเรา Double Click ที่ Drive ลองทดสอบดูเลยครับ


2.แต่ถ้ามีความจำเป็นเข้า Drive D ให้ใช้วิธีเข้าที่ run ครับ โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์ D:\ แล้วกด Enter ครับ จะเข้าได้
จาก นั้น scan virus ครับ


3.หรือไม่ก็อาจจะเป็นไวรัส flashy.exe


วิธีกำจัด
อาการเบื้องต้นของเครื่องที่ติดไวรัส flashy.exe
ไม่สามารถเรียกใช้ Task Manager, Registry Editor และFolder Option ได้ ไม่ว่าจะเรียกด้วยวิธีใด
เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกกำหนดให้ มีการตั้งรหัสผ่านสำหรับ Admin ทันที ทำให้เราเข้าเครื่องฯไม่ได้ เพราะไม่ทราบรหัสผ่าน
Flashy.exe จะทำการแก้รหัสของเราใหม่ ทำให้ไม่สามารถ Login เข้าเครื่องของเราได้อีกเลย
เมื่อมีการ plug in Flash Drive หรือ Memory Card เข้าไปใน Card Reader แล้ว หากว่า ใน Memory Card นั้นมี Folder อยู่ Folder เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนให้ไปอยู่ใน สถานะ Hidden ทำให้เราไม่สามารถมองเห็น Folder เหล่านั้นได้
ฯลฯ
วิธี กำจัดไวรัส flashy.exe
ขั้นตอนต่างๆ ต้องทำ ใน Safe mode ครับ ถึงจะได้ผล
1. ถ้าเครื่องที่มีอาการหนักจะถูกตั้งรหัสผ่าน Administrator เอาไว้ ให้ทำการแก้ไขโดยพิมพ์ คำว่า hacked เป็นรหัสผ่าน ซึ่งหากไม่รู้วิธีแก้ปัญหาโดยการติดตั้ง Windows ใหม่อย่างเดียว
2. เมื่อเราเข้าวินโดว์ได้แล้วให้เราหยุดการทำงานของมันก่อน โดยกด Ctrl+Alt+Delete จะเข้าสู่ Windows task Manager แล้วเลือกคลิก Flashy.exe แล้วคลิก End Process ตรงมุมขวาด้านล่าง
3. กรณีถ้าเข้า Windows Task Manager ไม่ได้ (ถ้าเข้าได้ให้ข้ามไปข้อ 6) ให้เราเข้าไปแก้ใน registy แต่ไวรัสยังปิดการเข้าใช้งาน Registry เอาไว้อีก ให้ใช้ตัว Unhookexec.inf ปลดล็อคก่อน
โดยดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บ http://www.kku.ac.th/data/services/it/UnHookExec.inf เมื่อโหลดมาแล้วก็คลิกขวา แล้วเลือก Install แต่ถ้าเครื่องไหนที่ติดไวรัส หน้าจอภาษาจีนด้วยต้อง ฆ่าก่อนนะครับไม่อย่างนั้น จะใช้ UnHookExec.inf ไม่ได้ผล
4. จากนั้นก็จะเข้าใช้งานส่วน Registry ได้ครับ เมื่อเข้าได้แล้วก็ไปทำการ แก้ไข Registry ให้เครื่องใช้งาน Task Manager ได้ครับ โดย ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit กด OK แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\system แล้วก็ลบ DisableRedistryTools และ DisableTaskMgr ออกครับ
5. เมื่อลบออกได้แล้วก็ไปทำตาม ข้อ 2 ครับ
6. แล้วตอนนี้มันก็หยุดการทำงานแล้วครับ ต่อไปเราต้องเข้า regedit แล้ว ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer\ ลบ NoFolderOptions
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\Advanced\ ลบ HideFileExt
HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\SharedAccess\ ลบ Start
HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Run\ ลบ Flashy.exe
จากนั้นคลิก Start\Programs\Startup\ ลบ SystemID.pif
จาก นั้นคลิก Start--->Run พิมพ์ msconfig ไปที่แถบ startup ยกเลิกติ๊กถูกหน้า systemID
รีสตาร์ทเครื่องใหม่
แล้วลองกด Ctrl+Alt+Delete ดูว่า Flashy.exe ยังมีการทำงานอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าเรียบร้อยแล้ว
ต่อไปการแก้ไขส่วนที่ไวรัสสร้าง ให้เราต้องใส่รหัสทุกครั้ง เวลาจะเปิดเครื่อง






คลิก Start\Control panel\User accounts
เลือก User แรก (Administrator) จะสังเกตุเห็นว่ามีข้อความแสดงว่า มีการใช้รหัสผ่านป้องกันอยู่
ให้คลิ กที่ User แรก (Administrator) แล้วเลือก หัวข้อ Change a password
พิมพ์ รหัสผ่าน Hacked ในช่องแรก ( ช่องรหัสผ่านเดิม) ช่องที่เหลือเว้นว่างไว้
ยืน ยันการเปลี่ยนรหัสผ่าน แล้วลองรีสตาร์ทเครื่องใหม่


หรือ




เข้า Run พิมพ์ regedit แล้วไปตามนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Winlogon]
แก้สตริงคีย์ตามนี้ครับหากไม่มีก็คลิกขา วเลือก New-->String value
ตามนี้ครับ
"AutoAdminLogon"="1"
"DefaultUserName"=" ชื่อผู้ใช้"
"DefaultPassword"hacked"
** หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จหมดแล้วให้ไปลบตัวไวรัสชื่อ Flashy.exe ใน C:\WINDOWS\system32
ต้องเปิด Show hidden File ก่อนถึงจะเห็น**